26 มีนาคม 2552

เลือกยาสีฟัน อันไหนดี?

เลือกยาสีฟัน อันไหนดี?


สาระน่ารู้ สุขภาพ อาหารเสริม เครื่องใช้ เครื่องสำอางค์ เครื่องกรองน้ำ กิฟฟารีน giffarine
ยาสีฟันที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน พวกเราเคยสงสัยหรือไม่ว่ายาสีฟันช่วยรักษาฟันได้อย่างไร และเราควรเลือกซื้อชนิดไหนที่เหมาะสมกับแต่ละคน

ปัจจุบัน จะพบโฆษณายาสีฟันที่ใช้แล้วทำให้ฟันขาว ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่า ยาสีฟันเป็นยาวิเศษ ความจริงยาสีฟันไม่มีประสิทธิภาพทำให้ฟันขาวขึ้นจากธรรมชาติของแต่ละคน หากแต่กลไกการทำงานของยาสีฟันจะทำหน้าที่ขจัดคราบที่เกาะติดอยู่ ทำให้เห็นเนื้อฟันที่ขาวโดยธรรมชาติให้ปรากฏขึ้นเท่านั้น เช่นเดียวกับน้ำยาล้างรถ เมื่อเราล้างรถให้สะอาด ก็จะเห็นสีรถเป็นเงางามสดใส ยาสีฟันก็เช่นกัน

ยา สีฟันในท้องตลาดมีหลากหลายยี่ห้อหลากหลายคุณภาพ การแข่งขันทำให้ผู้ผลิตพยายามพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ถูกใจผู้บริโภค โดยการเติมสารฟอกขาวในยาสีฟันเพื่อฟอกและกัดให้ฟันขาว สารฟอกขาวเหล่านี้หากใช้นานๆ จะมีผลไปกัดกร่อนเนื้อฟันชั้นนอกออกจนหมด ผลก็คือฟันจะเริ่มเหลืองและจะเสียวฟันต่อความร้อน-เย็น

ยาสีฟันทำงานอย่างไร?

ช่อง ปากเปรียบเสมือนสวนสัตว์เล็กๆ ส่วนตัว ประกอบไปด้วยเชื้อจุลินทรีย์กว่า 500 ชนิดอยู่รวมกันซึ่งเป็นสิ่งตกค้างจากเศษอาหารที่เกาะอยู่ตามซอกฟัน เชื้อจุลินทรีย์เจริญเติบโตได้จากเศษอาหารที่ตกค้างในปาก และหมักหมมจนก่อให้เกิดกรดและสารระเหยของซัลเฟอร์โมเลกุล กรดที่เกิดขึ้นจะกัดกร่อนเนื้อฟันให้ผุจนเป็นหลุม ในขณะที่สารระเหยของซัลเฟอร์โมเลกุลจะระเหยออกจากช่องปากส่งกลิ่นเหม็นทุก ครั้งที่เราพูด

ยา สีฟันจะทำงานร่วมกับแปรงสีฟัน ขัดและขจัดคราบและเศษอาหารตามซอกฟันออก ทำให้ช่องปากและฟันสะอาด เป็นการต่อต้านการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ ยาสีฟันประกอบไปด้วยผงขัดฟัน เช่น แคลเซี่ยมฟอสเฟท อลูมินา แคลเซี่ยมคาโบเนท และ แคลเซี่ยมซิลิกา ยาสีฟันที่ดีควรจะมีปริมาณและชนิดผงขัดฟันเหมาะสมและเพียงพอที่จะขัดคราบที่ เกาะอยู่บนผิวฟันได้ แต่ต้องไม่มากเกินไปหรือไม่ใช่ชนิดที่หยาบเกินไปเพราะจะไปทำลายเนื้อฟัน ทำให้เสียวฟันและฟันเหลือง

ยา สีฟันยังประกอบไปด้วยสารทำความสะอาดที่ทำให้เกิดฟองเวลาสีฟัน สารทำความสะอาดในยาสีฟันส่วนใหญ่คือ โซเดียมลอริ่วซัลเฟท สารดังกล่าวมักจะมีกลิ่นเคมีรุนแรง ทำให้ผู้ผลิตจำเป็นต้องกลบกลิ่นด้วยสารแต่งกลิ่นอื่นๆ ในปริมาณเข้มข้น และเนื่องจากลิ้นของคนเราสามารถรับรสได้มากมาย ดังนั้นยาสีฟันจึงต้องปรุงแต่งรสให้ออกหวานเล็กน้อย ส่วนใหญ่มักนิยมใช้น้ำตาลสังเคราะห์

เช่น แซคคาริน สารแต่งรสหวานก็นับเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ฟันผุได้ ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์แนะให้ผู้ผลิตหันมาใช้สารแต่งรสหวานจากธรรมชาติคือ ไซลิทอล (xylitol) ซึ่งปลอดภัยและไม่มีผลทำให้ฟันผุ แต่ราคาจะแพงกว่าชนิดอื่นๆ นอกจากนั้นสาระสำคัญในยาสีฟันยังนิยมที่จะใส่ ‘ฟลูออไรด์’ สารชนิดนี้เมื่อแทรกอยู่ในเนื้อฟัน จะช่วยต่อต้านกรดที่เกิดจากเชื้อจุลินทรีย์ ป้องกันฟันผุอย่างได้ผล

ปัญหายาสีฟัน

1. ยาสีฟันส่วนใหญ่ประกอบไปด้วย โซเดียมลอริลซัลเฟท ซึ่งเป็นสารทำความสะอาดและก่อให้เกิดฟองมากมายในช่องปากทุกครั้งที่เราสีฟัน สารชนิดนี้ก่อให้เกิดแผลในช่องปากซึ่งอาการข้างเคียงในประชากรประมาณ 20%

2. ยาสีฟันที่มีองค์ประกอบของสารขัดฟันมากเกินไป เพื่อวัตถุประสงค์ให้ฟันสะอาดและขาว หากใช้เป็นประจำและใช้ไปนานๆ จะเสียวฟันเมื่อได้รับความร้อน-เย็นจากอาหาร เพราะเนื้อฟันชั้นนอกจะสึก

วิธีเลือกซื้อยาสีฟัน

1. โดยทั่วไป ยาสีฟันชนิดไหนก็น่าจะใช้ได้ทั้งนั้นถ้าประกอบไปด้วยฟลูออไรด์ ซึ่งจะช่วยป้องกันฟันผุและช่วยให้ฟันแข็งแรง

2. แนะนำให้เลือกใช้ยาสีฟันที่ประกอบไปด้วยสารขัดฟันในปริมาณน้อย จะได้ไม่ทำให้ชั้นนอกของเนื้อฟันหรือ อีนาเมล (enamel) ถูกทำลาย แม้ว่าสารขัดฟันจะช่วยให้ฟันสะอาดและขาว แต่ผลเสียคือทำให้ชั้นอีนาเมลสึก เนื้อฟันชั้นในคือเดนทิน (dentin) ซึ่งมีรูพรุน อุณหภูมิร้อนเย็นจากอาหารจะสามารถแทรกซึม และสัมผัสกับปลายเส้นประสาท ผลคือจะเสียวฟันทุกครั้งที่รับประทานอาหารร้อนหรือเย็นจัด

การเลือกใช้ยาสีฟันตามลักษณะอาการ

ผู้ ที่มีแผลในช่องปากบ่อยๆ อาจเกิดจากสารทำความสะอาดหรือสารก่อฟองในยาสีฟันคือ โซเดียมลอริ่วซัลเฟท ควรหันไปซื้อชนิดอื่นที่ปราศจากสารดังกล่าวแทน ซึ่งมักจะระบุที่ข้างหลอดหรือกล่องบรรจุว่า ปลอดภัยสำหรับอีนาเมล หรือ ยาสีฟันช่วยให้ฟันขาว คุณสมบัติของยาสีฟันจะขจัดคราบที่ติดแน่นที่ผิวฟัน เช่น คราบบุหรี่ กาแฟ ทำให้ฟันสะอาดและความขาวของเนื้อฟันปรากฏ แต่ไม่ได้มีผลฟอกฟันให้ขาว

ผู้ ที่เสียวฟัน ควรเลือกใช้ยาสีฟันชนิดที่ป้องกันการเสียวฟัน ซึ่งเนื้อยาสีฟันจะลดปริมาณสารขัดฟันและมีองค์ประกอบของสารโปรตัสเซี่ยมไนเต รท ซึ่งจะช่วยลดอาการเสียวฟันได้บ้าง แต่หากไม่ได้ผล อาจต้องเปลี่ยนไปใช้ยาสีฟันที่มีองค์ประกอบของสารฟลูออไรด์สูง ฟลูออไรด์จะไปอุดรูพรุนของเนื้อฟัน ทำให้ปลายเส้นประสาทไม่สัมผัสกับความร้อนเย็นของอาหาร

ยา สีฟันสำหรับผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบ การเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปากนอกจากทำให้ฟันผุแล้ว สารพิษหรือทอกซินที่ปลดปล่อยจากแบคทีเรียจะไปทำลายเนื้อเยื่อของเหงือก ทำให้เลือดออกและอักเสบ ยาสีฟันที่มีองค์ประกอบของสารแต่งรสที่เป็นน้ำตาลหรือน้ำตาลเทียม ก็มีผลทำให้สภาวะช่องปากเป็นกรดและส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์

ยาสีฟันชนิดที่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบจะมีสาร "ไซลิทอล" เป็นองค์ประกอบ ไซลิทอลเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่เกิดการหมักหมมและไม่ถูกสลายให้เป็นกรดโดยเชื้อจุลินทรีย์ในปาก จะช่วยให้เกิดความสมดุลของความเป็นกรดกับด่างในช่องปากได้ดี และสภาวะที่ไม่เป็นกรดจะต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปากได้ดี ดังนั้นยาสีฟันที่มีไซลิทอลเป็นองค์ประกอบในปริมาณสูง จะช่วยลดอาการเหงือกอักเสบได้

from http://hilight.kapook.com/view/22917/2


14 มีนาคม 2552

ว่ากันด้วยเรื่องของ แคลเซี่ยม

ว่ากันด้วยเรื่องของ แคลเซี่ยม


สาระน่ารู้ สุขภาพ อาหารเสริม เครื่องใช้ เครื่องสำอางค์ เครื่องกรองน้ำ กิฟฟารีน giffarine แคลเซียม
แคลเซียมเป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูก ในผู้ที่สูงอายุหรือผู้หญิงที่หมดประจำเดือนจะเกิดการสลายกระดูกเร็วกว่าปกติ เกิดภาวะกระดูกพรุน หรือ osteroporosis ได้ง่าย อันเป็นสาเหตุของ กระดูกหักที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ที่ได้รับการกระทบกระแทก หรือหกล้ม เช่น กระดูกสะโพกหัก, กระดูกบริเวณข้อมือ, หรือกระดูกสันหลัง ทำให้หลังโกง เป็นต้น ตามความเป็นจริงแล้ว การป้องกันหรือรักษาภาวะกระดูกพรุน โดยเฉพาะ สำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่ดีที่สุด ได้แก่ การให้ฮอร์โมนทดแทน ซึ่งนอกจากจะช่วยเรื่องกระดูกได้ดีกว่ายาอื่นแล้ว ยังลดไขมัน และเชื่อว่าป้องกัน โรคความจำเสื่อม อัลไซเมอร์ (Alzheimer disease) ได้ด้วย
(จากการสังเกตว่าผู้ป่วยชนิดนี้เป็นผู้ชายเสียส่วนใหญ่) แต่ข้อเสียคือ จะทำให้มีประจำเดือนอีกและควรระวังใน ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อมะเร็งเต้านม
การให้แคลเซียมทดแทน ก็อาจช่วยได้บ้าง แต่วิธีที่จะให้แคลเซียมเสริมที่ดีที่สุด คือควรเริ่มตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ ซึ่งทำให้ร่างกายมีเนื้อกระดูกมาก ซึ่งจะทำให้เสี่ยงต่อกระดูกผุในวัยชราน้อยลง
การให้แคลเซียมหลังหมดประจำเดือนไปแล้ว มีประโยชน์บ้างเหมือนกัน แต่ไม่มากเท่ากับในช่วงอายุที่ว่า สำหรับผู้ชาย การเกิดโรคจากกระดูกพรุน พบได้น้อยกว่า เนื่องจากเนื้อกระดูกมีมากกว่าแต่อาจเกิดได้เมื่ออายุมากเหมือนกัน ดังนั้นควรป้องกันโดยเสริมแคลเซียมตั้งแต่ เนิ่น ๆ ครับ
อาหารที่แคลเซียมสูง ได้แก่ เนื้อสัตว์, ปลาเล็กที่กินได้ทั้งตัว, นม หรือใครจะซื้อแคลเซียมกินก็ได้ มีขายอยู่มากมาย นอกจากนี้ต้องออกกำลังกายที่ลงน้ำหนัก เช่นเดิน , วิ่ง จะดีกว่าว่ายน้ำ เพราะช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูกได้ดีกว่า

from http://health.deedeejang.com/news/471.html


บทความยอดนิยม (ล่าสุด)

บทความยอดนิยม (All Time)